5+2 วิธีดูแลสมองของเราให้แจ่มใสอยู่เสมอ
30 มิ.ย. 2566 00:00หลาย ๆ คนรู้จักกับอาการสมองเสื่อม โรคความจำเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ ในฐานะโรคของผู้สูงอายุ เพราะเข้าใจว่าโรคเหล่านี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ และยังจะไม่ต้องกังวลในวัยหนุ่มสาว ทว่า แท้ที่จริง โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของสมอง อาจเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วัย 30-40 โดยที่เรายังไม่รู้ตัวก็เป็นได้ค่ะ แต่ด้วยความที่อาการมักจะแสดงออกชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็มักจะสายเกินไปเสียแล้ว
ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก ชวนมาลองเช็คดูกันซักหน่อย ว่าเราเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ วางของแล้วจำไม่ได้ ลืมนัด ลืมชื่อคน เริ่มมีอาการพิมพ์ดีดผิดจากที่ไม่เคยเป็น หรือเริ่มนึกอะไร ๆ ออก ช้ากว่าที่เคยกันบ้างหรือเปล่า เหล่านี้ ล้วนเป็นอาการที่เป็นสัญญาณเกี่ยวกับสมอง ที่ไม่ควรละเลยกันแล้วล่ะค่ะ
โรคสมองเสื่อม แม้จะเป็นไปตามธรรมชาติ แต่หากมีการดูแลที่ดี ก็อาจเป็นหนทางป้องกัน และบำรุงสมองของเราให้ทำงานได้เป็นปกติไปได้อีกนานๆ มาดูกันเลยค่ะกับ 5+2 วิธีดูแลสมองของเรา
1. ดูแลเรื่องโภชนาการ…เราอาจจะได้รับข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายๆ ชนิดมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ทว่าการรักษาสมดุลทางโภชนาการ ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อกลับเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะฉะนั้น อย่าลืมดูแลให้ร่างกายได้รับสารอาหารให้ครบถ้วน ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน รวมถึงแร่ธาตุ และอย่าลืม ทานอาหารเช้าในทุกๆ วัน เพราะอาหารเช้า จะเป็นตัวช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของสมองค่ะ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ…สมอง จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทั้งในด้านการใช้ความคิด และการตื่นตัวของสมอง
3. ฝึกสมอง… ร่างกายที่แข็งแรง จำเป็นต้องได้รับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่นเดียวกับสมองของเรา การใช้สมองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ภาษาใหม่ๆ รวมถึงเกมส์ที่ใช้สมองอย่างเช่นหมากกระดาน เกมส์คำศัพท์ หรือเกมส์ประเภทตัวเลข ล้วนเป็นการบริหารสมองที่ดีทั้งสิ้น สมองที่สมบูรณ์ จำเป็นต้องได้รับการบริหาร เริ่มบริหารสมองเสียตั้งแต่วันนี้ค่ะ
4. ออกกำลังกาย…การทำงานของสมอง ย่อมเป็นผลมาจากการทำงานของระบบอื่นๆ ของร่างกาย หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดอย่างเต็มที่อย่างน้อย สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สมองที่ดี จำเป็นต้องอาศัยร่างกาย และระบบการทำงานที่ดี ที่สำคัญ การออกกำลังกายจะมีส่วนช่วยในการทำงานของสมองในส่วนของการตัดสินใจ และความจำ
5. บริหารความเครียด และจดจำเรื่องราวที่ดี…สมองของเราทำงานได้ดีในขณะที่เรามีความสุขค่ะ พยายามลดภาวะความเครียด ผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิ หางานอดิเรก หรือไปเที่ยวพักผ่อนเมื่อรู้สึกว่าเรามีความเครียดมากจนเกินไป เข้าสังคม พบปะกับผู้คน รวมถึงจดจำเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้ มีผลต่อการทำงานของสมองทั้งสิ้น
ดูแลสมองตามที่กล่าวมาแล้ว สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ…เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง และมีความสำคัญต่อการทำงานของสมองไม่น้อยไปกว่าระบบอื่นๆ ภายในร่างกาย แปลว่าสมอง จำเป็นต้องได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสม พยายามดื่มน้ำให้มากในแต่ละวัน เพราะนอกจากความสดชื่นที่ได้รับแล้ว ยังจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญ น้ำเปล่า ดีที่สุดนะคะ
และนอกเหนือจากการดูแลสมองให้แข็งแรงแล้ว อย่าลืมช่วยลดการทำร้ายสมอง ด้วยการลดสิ่งที่เป็นอันตรายกับสมองกันด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ สารเสพติดทุกชนิด เป็นอันตรายต่อสมอง ทางที่ดี อยู่ห่างๆ ไว้จะดีที่สุดเลยค่ะ
เอาล่ะ ได้ทราบกันไปแล้ว ถึงแนวทางในการดูแล รักษาสมองของเราให้มีสุขภาพที่ดี อย่าปล่อยให้สมองของเราเสื่อมจนเกินจะแก้ไข เริ่มดูแลเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตยังมีอยู่อีกมากมายให้จดจำ เตรียมสมองไว้รับกับเรื่องราวเหล่านั้นไปด้วยกัน ที่สำคัญ ไอเดียดีๆ ย่อมต้องมาจากสมองที่สุขภาพดีเช่นกันค่ะ ^^
***ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก https://lifecenterthailand.wordpress.com***